1. ประเภทแผนที่ที่ใช้เดินป่า
แผนที่กระดาษ (Topographic Map)
ข้อดี:
- ไม่ต้องพึ่งแบตเตอรี่
- เห็นภาพรวมพื้นที่กว้าง
- แสดงรายละเอียดภูมิประเทศชัดเจน
- เชื่อถือได้ ไม่มี error
ข้อเสี่ย:
- ต้องมีทักษะการอ่าน
- ไม่แสดงตำแหน่งตัวเองแบบ real-time
- ขาดได้ เปียกได้
💡 แนะนำ: ใส่ถุงกันน้ำหรือลามิเนต ใช้คู่กับเข็มทิศ
แอปในมือถือ
แอปที่นิยม:
- Google Maps: ดูเส้นทางคร่าวๆ
- Maps.me: ออฟไลน์ได้ ฟรี
- AllTrails: มีรีวิวเส้นทาง
- Gaia GPS: สำหรับโปร มี topo map
ข้อดี:
- แสดงตำแหน่ง GPS แบบ real-time
- บันทึกเส้นทางได้
- ง่าย สะดวก
⚡ สำคัญ: โหลดแผนที่ออฟไลน์ก่อนขึ้นเขา!
💡 คำแนะนำสำหรับมือใหม่
ใช้ ทั้งแอปและแผนที่กระดาษ ควบคู่กัน เพื่อความปลอดภัยสูงสุด หากเกิดเหตุแบตหมดหรือโทรศัพท์เสีย ยังมีแผนที่สำรองได้
2. วิธีอ่านแผนที่พื้นฐาน
องค์ประกอบสำคัญของแผนที่
สเกล (Scale)
บอกความสัมพันธ์ระหว่างระยะบนแผนที่กับระยะจริง
ตัวอย่าง: Scale 1:50,000
หมายความว่า 1 cm บนแผนที่ = 50,000 cm (500 เมตร) ในความเป็นจริง
เส้นชั้นความสูง (Contour Lines)
เส้นโค้งที่แสดงความสูงจากระดับน้ำทะเล แต่ละเส้นแทนความสูงเท่ากัน
• เส้นห่างกัน = พื้นที่ลาด ๆ ราบ
• เส้นชิดกัน = พื้นที่ชันมาก
• เส้นวงกลม = ยอดเขา หรือหลุม
สัญลักษณ์ภูมิประเทศ
สัญลักษณ์ต่างๆ บนแผนที่ที่ต้องรู้จัก
• เส้นสีน้ำเงิน: แม่น้ำ ลำธาร
• พื้นสีเขียว: ป่าไม้
• เส้นประ: เส้นทางเดิน
• สัญลักษณ์ ▲: ยอดเขา
• สี่เหลี่ยม: อาคาร บ้านเรือน
การดูทิศเหนือ/ใต้บนแผนที่
ส่วนใหญ่แผนที่จะมี ลูกศรชี้ทิศเหนือ (N) อยู่ที่มุมแผนที่
หลักจำ:
ถ้าไม่มีลูกศร → บนของแผนที่ = ทิศเหนือ เสมอ
หมุนแผนที่ให้ตรงกับทิศของเข็มทิศ เพื่อให้ง่ายต่อการมองภาพ
✍️ เทคนิคฝึกอ่านแผนที่
- 1. ดูสเกล คำนวณระยะทางคร่าวๆ จากจุด A → B
- 2. ดูเส้นชั้นความสูง คาดการณ์ว่าเส้นทางชันหรือไม่
- 3. หาจุดสังเกต เช่น แม่น้ำ สะพาน ยอดเขา เพื่อใช้ยืนยันว่าเดินถูกทาง
- 4. ฝึกบ่อยๆ ลองเทียบแผนที่กับเส้นทางจริง ยิ่งทำบ่อยยิ่งเก่ง
3. การใช้แอปแผนที่ในมือถือให้ปลอดภัย
ขั้นตอนเตรียมความพร้อม
โหลดแผนที่ออฟไลน์ก่อนขึ้นดอย
เพราะบนเขามักไม่มีสัญญาณ หรือสัญญาณอ่อน แอปส่วนใหญ่เช่น Maps.me, AllTrails, Google Maps รองรับโหลดแผนที่ล่วงหน้า
วิธีโหลดออฟไลน์:
เลือกพื้นที่บนแอป → กด "Download" หรือ "Save Offline" → เลือกขนาดพื้นที่
พก Power Bank
GPS กิน battery เยอะ ควรพา power bank ความจุ 10,000-20,000 mAh สำรองติดตัว
เปิด "เครื่องบินโหมด" + เปิดแค่ GPS
ประหยัดแบตได้มาก เพราะไม่ต้องค้นหาสัญญาณมือถือตลอด แต่ GPS ยังใช้งานได้ปกติ
บันทึกเส้นทาง (Track Recording)
เปิดให้แอปบันทึกเส้นทางที่เดิน ถ้าหลงจะได้ย้อนกลับตามเส้นเดิม
ข้อจำกัดที่ต้องรู้
GPS เพี้ยนได้
ในป่าทึบ หรือหุบเขาลึก สัญญาณ GPS อาจคลาดเคลื่อน 10-50 เมตร ห้ามเชื่อ 100%
แบตหมด/โทรศัพท์เสีย
ถ้าแบตหมดหรือเครื่องเสีย ก็ใช้แอปไม่ได้ นี่คือเหตุผลที่ต้องมีแผนที่กระดาษ + เข็มทิศสำรอง
ไม่มีสัญญาณ = โทรออกไม่ได้
GPS ใช้งานได้โดยไม่ต้องมีสัญญาณ แต่ถ้าจะโทรหาความช่วยเหลือต้องมีสัญญาณมือถือ
💡 กฎทอง: อย่าพึ่งแอปอย่างเดียว
แอปแผนที่สะดวกมาก แต่อย่าพึ่งมันอย่างเดียว ควรใช้ควบคู่กับ แผนที่กระดาษ + เข็มทิศ + สังเกตทาง เพื่อความปลอดภัย
4. เข็มทิศและการใช้ร่วมกับแผนที่
รู้จักส่วนต่างๆ ของเข็มทิศ
เข็มแม่เหล็ก
เข็มที่หมุนได้ ปลายสีแดงหรือมีลูกศร จะชี้ทิศเหนือเสมอ
หน้าปัด (Dial)
วงกลมที่มีตัวเลข 0-360 องศา (0° = เหนือ, 90° = ตะวันออก, 180° = ใต้, 270° = ตะวันตก)
ลูกศรทิศทาง
ลูกศรที่ปลายเข็มทิศ ใช้ชี้ไปยังทิศที่จะเดิน
ขอบวัดมุม
ใช้วัดระยะบนแผนที่ หรือหามุมองศา (bearing)
วิธีหาทิศคร่าวๆ แบบง่าย
วางเข็มทิศราบ
ไม่เอียง ไม่ใกล้เหล็กหรือโลหะ (เช่น มีดพับ กุญแจรถ)
รอเข็มหยุดหมุน
ปลายสีแดง/มีลูกศร จะชี้ทิศเหนือ
หมุนตัวให้ลูกศรทิศทางชี้ไปทางที่ต้องการ
อ่านองศาจากหน้าปัด (เช่น 90° = ตะวันออก)
📍 เทคนิคการเดินตาม Bearing (แบบง่าย)
- ดูจากแผนที่ว่าต้องการเดินไปทิศไหน (เช่น ไปทิศตะวันออกเฉียงเหนือ)
- ตั้งเข็มทิศให้ลูกศรชี้ทิศนั้น (เช่น 45°)
- หมุนตัวให้เข็มแม่เหล็ก (แดง) ตรงกับทิศเหนือบนหน้าปัด
- เดินไปตามทิศที่ลูกศรชี้ เช็คทิศซ้ำทุก 10-15 นาที
คำเตือน
เข็มทิศชี้ทิศเหนือ แม่เหล็ก (Magnetic North) ซึ่งอาจเบี่ยงเบนจากทิศเหนือจริง (True North) ประมาณ 1-3° ในประเทศไทย ส่วนใหญ่ไม่สำคัญมากสำหรับเดินป่าทั่วไป แต่ถ้าเป็นโปรควรปรับ declination
5. เทคนิคเดินตามเส้นทางโดยไม่หลุด Trail
สิ่งที่ต้องสังเกตขณะเดิน
ป้ายหรือเครื่องหมายบนเส้นทาง
อุทยานมักติดป้ายระยะทาง เช่น "ระยะทาง 2 กม." "ยอดเขาอีก 500 ม."
→ เห็นป้ายบ่อย = อยู่บนเส้นทางถูก
ริบบิ้นหรือสายรัดแดง/ส้ม/ชมพู
เจ้าหน้าที่หรือไกด์มักผูกริบบิ้นไว้ที่ต้นไม้เพื่อบอกเส้นทาง
→ เห็นริบบิ้นเป็นระยะ = ทางถูก
→ นานไม่เห็น = อาจหลุดทาง ให้หยุดเช็ค
รอยเท้าและร่องทาง
เส้นทางยอดนิยมจะมีร่องเท้าชัดเจน ดินถูกเหยียบจนแข็ง
→ เห็นรอยเท้าคนเดินชัด = ทางถูก
→ พื้นเต็มไปด้วยใบไม้ ไม่มีร่องรอย = ระวัง อาจหลงทาง
เครื่องหมายหิน (Cairn)
กองหินซ้อนกันเป็นปิรามิด เจ้าหน้าที่หรือนักเดินป่าวางเป็นจุดสังเกต โดยเฉพาะบนยอดเขาโล่ง
→ เห็น cairn = บริเวณนี้เป็นเส้นทาง
⚠️ กฎทอง: ถ้าไม่เห็นร่องรอยคนเดินนานๆ → หยุด!
หากเดินไปแล้ว 5-10 นาที ไม่เห็นป้าย ไม่เห็นริบบิ้น ไม่เห็นรอยเท้า → มีโอกาสสูงที่ หลุดทางแล้ว
สิ่งที่ต้องทำทันที:
- หยุดเดิน อย่าเดินต่อ
- เรียกทีม ให้ทุกคนรอรวมกัน
- เช็คแผนที่/GPS ดูว่าอยู่ตรงไหน
- ย้อนกลับไปหาจุดที่เห็นเครื่องหมายครั้งสุดท้าย
- ไม่แน่ใจ = อยู่กับที่ โทรขอความช่วยเหลือ (ถ้ามีสัญญาณ)
💡 ทิป: ถ่ายรูปป้ายหรือริบบิ้นทุกครั้งที่เจอ จะได้มีหลักฐานว่าเดินมาถูกทาง และใช้เป็น reference ได้
✅ Checklist: อยู่บนเส้นทางหรือเปล่า?
→ ครบทั้งหมด = เดินถูกทาง มั่นใจได้ 🎉
✅ Checklist: นำทางอย่างปลอดภัย
เช็คครบแล้ว ไม่หลงทางแน่นอน! 🧭🗺️
